top of page

บทกราบสัมผัสพื้นดิน ๓ ประการ

ครั้งที่ ๑ กราบสัมผัสพื้นดิน ลูกขอสัมพันธ์เชื่อมโยงกับบรรพบุรุษ ผู้สืบสานสายเลือดทางจิตวิญญาณ

(เสียงระฆัง)

(กราบสัมผัสพื้นดิน)


บรรพบุรุษทางจิตวิญญาณของลูก ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระ โพธิสัตว์ คณะอริยสงฆ์ผู้เป็นสาวกของพระศาสดา พระอรหันตเจ้า ทุกสมัย อีกทั้งครูทางจิตวิญญาณที่มีชีวิตอยู่ หรือล่วงลับไปแล้ว ท่าน ทั้งหลายเหล่านั้นดำรงอยู่ในตัวลูก เพราะท่านได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณ ที่มีชีวิตอยู่ หรือล่วงลับไปแล้ว ท่านทั้งหลายเหล่านั้นดำรงอยู่ในตัวลูก เพราะท่านได้ถ่ายทอดเมล็ดพันธุ์แห่งศานติ ปัญญา ความรักและ ความสุขไว้ในตัวลูก ท่านได้ปลุกความเข้าใจและความกรุณาในตัวลูก ให้ตื่นขึ้น เมื่อลูกมองมายังบรรพบุรุษทางจิตวิญญาณ ลูกเห็นผู้ที่มี ศีลปฏิบัติเพียบพร้อมงดงาม เปี่ยมด้วยความเข้าใจและความกรุณา และเห็นผู้ที่ยังไม่พร้อมด้วยศีลปฏิบัติ ลูกยอมรับท่านทั้งหลายเหล่านั้น ด้วยลูกเห็นข้อบกพร่องและจุดอ่อนในตัวเอง ด้วยระลึกว่าศีลปฏิบัติ ของตนมิได้สมบูรณ์เสมอไป เพราะลูกยังไม่เข้าใจและไม่เปี่ยมด้วย ความกรุณาอยู่ตลอดเวลา ลูกเปิดหัวใจยอมรับผู้สืบทอดทาง จิตวิญญาณทุกคน ทายาทของลูกบางคนได้ถือศีลภาวนา มีความเข้าใจ และความกรุณา ในทางที่เกิดความมั่นใจและความนอบน้อม แต่ก็ยัง มีบางคนที่เผชิญอุปสรรคนานัปการ ทั้งยังขึ้นลงในการเปลี่ยนแปลง อยู่เสมอ

(ตามลมหายใจ ๓ ครั้ง)


ในทำนองเดียวกัน ลูกยอมรับบรรพบุรุษทางฝ่ายบิดาและ ฝ่ายมารดา ลูกยอมรับคุณสมบัติที่ดีและการกระทำดีของท่าน พร้อม กันนั้นลูกยังยอมรับจุดอ่อนทั้งหลายของท่านด้วย ลูกเปิดหัวใจยอมรับ ความสามารถและคุณสมบัติที่ดีรวมทั้งข้ออ่อนด้อยของลูกหลานด้วย

(ตามลมหายใจ ๓ ครั้ง)


บรรพบุรุษทางจิตวิญญาณและทางสายเลือด ผู้สืบทอดทาง จิตวิญญาณและทางสายเลือดนั้น ดำรงอยู่ทั้งหมดในตัวลูก ลูกคือท่าน ตัวลูก ลูกคือท่าน ท่านคือลูก ลูกมิได้มีตัวตนที่แยกออกมา แต่ทั้งหมดนั้นดำรงอยู่ใน กระแสธารของชีวิตอันไหลสืบเนื่องอยู่ไม่ขาดสาย

(ตามลมหายใจ ๓ ครั้ง)

(เสียงระฆัง)

(ลุกขึ้น)


ครั้งที่ ๒ กราบสัมผัสพื้นดิน ลูกขอสัมพันธ์เชื่อมโยงกับมนุษย์ทุกคน และสรรพชีวิตทั้งผองซึ่งมีชีวิตอยู่ ณ ขณะนี้ ในโลกนี้

(เสียงระฆัง) (กราบสัมผัสพื้นดิน)


ลูกเป็นหนึ่งเดียวกับชีวิตอันมหัศจรรย์ที่แผ่ขยายออกไปทั่วทุก สารทิศ ลูกเห็นความเกี่ยวเนื่องอย่างแนบแน่นของตัวลูก และสรรพสิ่ง อื่น ๆ ว่า เราเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขของกันและกัน ลูกเป็นหนึ่งเดียว กับผู้ที่เกิดมาพิการ หรือกลายเป็นผู้ทุพพลภาพจากสงคราม อุบัติเหตุ หรือความเจ็บป่วย ลูกเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ที่ตกอยู่ในสภาวะสงครามหรือ ถูกกดขี่ ลูกเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ที่หาความสุขในชีวิตครอบครัวมิได้ภาวนาด้วยหัวใจ

ผู้ที่ไร้ญาติขาดมิตร และผู้ที่ไม่มีความสงบสันติในเรือนใจ ผู้ที่โหยหา ความรักและความเข้าใจ ผู้ที่แสวงหาความงาม ความดีและความจริง เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวและศรัทธาในชีวิต ลูกเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ที่อยู่ ณ จุดแห่งความตายที่หวาดกลัว และไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลูกเป็นเด็ก ที่อาศัยอยู่ท่ามกลาง ความแร้นแค้น กันดาร และเต็มไปด้วยโรคภัย ไข้เจ็บ ผอมลีบติดกระดูก และไร้ซึ่งอนาคต ลูกยังเป็นผู้ผลิตอาวุธ สงครามเพื่อขายแก่ประเทศยากจน ลูกเป็นกบว่ายน้ำในสระ และลูก ยังเป็นงู ผู้ล่ากบมาเป็นอาหารหล่อเลี้ยงร่างกาย ลูกเป็นตัวด้วงและ มดแมลงที่นกต้องการกินเป็นอาหาร และลูกยังเป็นนกที่คอยล่าหา ตัวด้วงและมดแมลง ลูกเป็นต้นไม้ที่ถูกตัดโค่น ลูกเป็นแม่น้ำและ อากาศที่แปดเปื้อนด้วยมลพิษ แต่ลูกก็เป็นผู้ตัดต้นไม้และผู้สร้าง มลภาวะให้แม่น้ำและอากาศ ลูกเห็นตัวลูกดำรงอยู่ในสรรพชีวิต และ ลูกเห็นสรรพชีวิตดำรงอยู่ในตัวลูก

(ตามลมหายใจ ๓ ครั้ง)


ลูกเป็นหนึ่งเดียวกับบรรดาผู้ตื่นรู้ที่ได้ตรัสรู้ความจริงว่า ไม่มีเกิด ไม่มีตาย และพิจารณาการเกิด การตาย ความสุข ความทุกข์ด้วยสายตา ที่สงบนิ่ง ลูกเป็นหนึ่งเดียวกับกัลยาณมิตรเหล่านั้นที่ดำรงอยู่ในทุกหน ทุกแห่งทั่วโลก ผู้มีสันติสุขในเรือนใจ ผู้เปี่ยมด้วยความรักและความ เข้าใจ ผู้สามารถสัมผัสกับสิ่งอันประเสริฐ ผู้บำรุงรักษาและเยียวยาชีวิต ผู้โอบอุ้มโลกไว้ด้วยหัวใจอันเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณาและอ้อมแขน แห่งการกระทำอันอ่อนโยน ลูกเป็นผู้ที่มีความสันติสุข และอิสรภาพ เพียงพอที่จะสามารถนำความปิติสุข และความไม่หวาดกลัวมาสู่ สรรพสิ่งรอบข้าง ลูกเห็นได้ว่าลูกมิได้ถูกตัดขาดและโดดเดี่ยว ความรัก และความสุขของบรรดาผู้ตื่นรู้ที่ดำรงอยู่ในโลกขณะนี้ได้เป็นกำลังใจให้ลูก ช่วยให้ไม่จมปลักอยู่กับความสิ้นหวัง ทั้งยังช่วยให้ลูกดำเนิน ชีวิตได้อย่างเต็มเปี่ยม มีความสุขและมีความหมาย ลูกเห็นลูกดำรงอยู่ ในบรรดาผู้ตื่นรู้เหล่านั้น และบรรดาผู้ตื่นรู้เหล่านั้นดำรงอยู่ในตัวลูก

(ตามลมหายใจ ๓ ครั้ง)

(เสียงระฆัง)

(ลุกขึ้น)


ครั้งที่ ๓ กราบสัมผัสพื้นดิน ลูกขอปล่อยวางความคิดว่าตัวลูกดำรงอยู่ เพียงในร่างกายนี้และช่วงชีวิตลูกนั้นจำกัด

(เสียงระฆัง)

(กราบสัมผัสพื้นดิน)


ลูกเห็นแล้วว่าร่างกายอันประกอบด้วยธาตุ ๔ นี้มิใช่ตัวตนของลูก และลูกก็มิได้ถูกจำกัดไว้ด้วยร่างกายนี้ ลูกเป็นส่วนหนึ่งของกระแสธาร แห่งบรรพบุรุษทางจิตวิญญาณ และทางสายเลือดที่ไหลสืบเนื่องมาแต่ นับพันปี และจะไหลล่องไปอีกนับพันปี ลูกเป็นหนึ่งเดียวกับบรรพบุรุษ ของลูก ลูกเป็นหนึ่งเดียวกับลูกหลานของลูก ลูกคือชีวิตซึ่งปรากฏใน รูปแบบต่างๆ อันอเนกอนันต์ ลูกเป็นหนึ่งเดียวกับเพื่อนมนุษย์ทุกคน และสรรพสิ่งทั้งหลาย ไม่ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเป็นสุข หรือเป็นทุกข์ จะไร้ความโศกเศร้าหรือเต็มไปด้วยความกังวล ลูกกำลังดำรงอยู่ทั่วทุก หนแห่ง ในขณะนี้ และในอดีต จนถึงอนาคต ความเสื่อมสลายของ ร่างกายนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบกับตัวลูก อุปมาดั่งดอกลีลาวดีที่ร่วงหล่น ก็มิได้หมายความว่าต้นลีลาวดีนั้นตาย ลูกเห็นตัวลูกเสมือนเกลียวคลื่น ในท้องมหาสมุทร ธรรมชาติที่แท้ของลูกคือน้ำในมหาสมุทร ลูกเห็น ตัวลูกในเกลียวคลื่นลูกอื่น และเห็นเกลียวคลื่นลูกอื่นในตัวลูกการก่อกำเนิดและการสลายหายไปของเกลียวคลื่นไม่ส่งผลใดๆ ต่อท้องมหาสมุทร กายแห่งธรรมและชีวิตแห่งปัญญาของลูกไม่ขึ้นต่อ การเกิดและการตาย ลูกเห็นตัวลูกก่อนการก่อกำเนิดตัวลูกที่เป็น ร่างกายนี้ และเห็นตัวลูกแม้ร่างกายนี้แตกสลายไป แม้ขณะนี้ ลูกก็ เห็นว่าลูกดำรงอยู่นอกเหนือไปจากร่างกายนี้ ช่วงชีวิตลูกมิใช่เพียง เจ็ดสิบหรือแปดสิบปี แต่ช่วงชีวิตลูกเป็นเช่นเดียวกับช่วงชีวิตของใบไม้ หรือของพระพุทธเจ้าที่มีอายุเป็นอนันตกาล ลูกก้าวล่วงพ้นความคิด ที่ว่า ตัวลูกคือร่างกายอันแยกออกจากรูปแบบชีวิตอื่น ๆ ทั้งในกาลเวลา และในสถานที่

(ตามลมหายใจ ๓ ครั้ง)

(เสียงระฆัง)

(ลุกขึ้น)


Comments


bottom of page